13 กุมภาพันธ์ 2559

DIF Fund vs JASIF Fund

INDUSTRY QUICK COMMENT 

เรามองว่ากองทุนฯ DIF และ JASIF มีผลตอบแทนเงินปันผลต่อปี เฉลี ย 8% หรือราว 2% ต่อไตรมาสใกล้เคียงกัน ทั,งนี,จากการเปรียบเทียบทรัพย์สินของกองทุนฯ, โอกาสเติบโตจากผ้เช่ารายใหม่ และความเสี ยงของกองทุนฯ เรามองว่ากองทุนฯ ู DIF น่าสนใจกว่า JASIF เนื องจากลงทุนในทรัพย์สินครอบคลุมทั,งเสาโทรคมนาคมและโครงข่าย FOC ทําให้ทรัพย์สินของกองทุนฯ มีการกระจายตัวกว่าทรัพย์สินของกองทุนฯ JASIF (ลงทุนโครงข่าย FOC เพียงอย่างเดียว) นอกจากนี,กองทุนฯ DIF ยังมีโอกาสเติบโตจากการขยายฐานผ้เช่ารายใหม่ทั,งตลาดโทรศัพท์มือถือและตลาดให้บริการอินเตอร์เน็ต ความเร็วสูง เรามองว่าการลงทุนโครงข่าย 4G ของ Mobile Operator เป็ นโอกาสขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ จากปัจจุบันที มีกลุ่ม TRUE และ CAT เป็ นผ้เช่าหลัก

ส่วนกองทุน JASIF มองว่ามีความเสี ยงจาก TTT BB (3BB) เป็ นผ้เช่าหลักรายเดียว ขณะที การขยายฐานลูกค้าใหม่จํากัดเพียงตลาดผ้ให้บริการอินเตอร์เน็ต และยังมีผ ู ้ให้บริการวงจรเช่า ู(ILINK, SYMC) เป็ นค่แข่งโดยตรง หากเปรียบเทียบค่าบริการกับ ILINK และ SYM ู C เราคาดว่าค่าเช่า JASIF สูงกว่าราว 30-40% ทําให้เป็ นอุปสรรคในการหาผ้เช่ารายใหม่ ู

กองทุนฯ DIF น่าสนใจกว่า JASIF เนื องจากมีโอกาสเติบโตและมีความเสี ยงตํ ากว่า 
• ทรัพย์สินของกองทุนฯ DIF และ JASIF กองทุนฯ DIF มีรูปแบบการลงทุนในทรัพย์สินเป็ นแบบ Hybrid ประกอบด้วย 1) สิทธิในการได้รับรายได้สุทธิทีเกิดจากการให้เช่าเสาโทรคมนาคม 6,183 ต้น, อุปกรณ์ระบบสือสัญญาณ 9,169 ลิงค์ และใยแก้วนําแสง (FOC) จํานวน 47,250 กิโลเมตร (680,400 คอร์กิโลเมตร) 2) ลงทุนในกรรมสิทธิVเสาโทรคมนาคม 6,000 ต้น, FOC 5,112 กิโลเมตร (122,974 คอร์กิโลเมตร), ระบบบรอดแบนด์ในเขตต่างจังหวัด 1.2 ล้านพอร์ต, FOC 6,114 กิโลเมตร (197,085 คอร์กิโลเมตร) และ 3) สิทธิในการเช่า FOC 8,000 กิโลเมตร (303,500 คอร์กิโลเมตร) โดยทรัพย์สินของกองทุน DIF รองรับการให้บริการโทรศัพท์เคลือนที และบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ส่วนกองทุนฯ JASIF ลงทุนในกรรมสิทธิVเส้นใยแก้วนําแสง (FOC) จํานวน 980,000 คอร์กิโลเมตร ซึงเป็ นโครงข่ายให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง เรามองว่าการทีกองทุนฯ DIF ลงทุนในทรัพย์สินทั [งเสาโทรคมนาคมและโครงข่าย FOC ทําให้มีทรัพย์สินกระจายตัวกว่ากองทุนฯ JASIF ซึงลงทุนโครงข่าย FOC เพียงอย่างเดียว

• ฐานลูกค้าและโอกาสเติบโตจากผ้เช่ารายใหม่ ู ปัจจุบันกองทุนฯ DIF มีผู้เช่าหลักคือ TRUE และ CAT ระยะเวลาเช่า 12 ปี (สิ [นสุด 3 ส.ค.2025) ส่วนกองทุนฯ JASIF มีผู้เช่าหลักคือ TTT BB (3BB) JAS (ถือหุ้น 99.2%) ระยะเวลาเช่า 11 ปี (สิ [นสุด 22 ก.พ.2026) หากเปรียบเทียบทรัพย์สินทีกองทุนฯ ลงทุนปัจจุบัน เรามองว่ากองทุนฯ DIF มีโอกาสขยายตลาดผู้เช่ารายใหม่ได้จากกลุ่ม Mobile Operator และ Internet Provider นอกจากนี [การลงทุนขยายโครงข่าย 4G ของ Mobile Operator เป็ นโอกาสในการขยายผู้เช่าเสาโทรคมนาคมของกองทุนฯ DIF ในอนาคต ขณะทีกองทุนฯ JASIF มีโอกาสขยายตลาดผู้เช่ารายใหม่เฉพาะกลุ่ม Internet Provider เนืองจากทรัพย์สินของกองทุนฯ JASIF รองรับเพียงบริการบอร์ดแบนด์อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ประกอบกับยังมีผู้ให้บริการวงจรเช่า (ILINK และ SYMC ให้เช่าโครงข่าย FOC) เป็ นคู่แข่ง หากเปรียบเทียบอัตราค่าบริการเฉลียสําหรับผู้เช่ารายอืนๆ ของกองทุนฯ DIF กําหนดค่าเช่า FOC ที 1,100 บาทต่อคอร์กิโลเมตรต่อเดือน สูงกว่าค่าเช่าของ JASIF ราว 47% (vs JASIF กําหนดค่าเช่า 750 บาทต่อคอร์กิโลเมตรต่อเดือน)ส่วนค่าเช่าของผู้ให้บริการวงจรเช่า (ILINK, SYMC) เราประเมินว่าจะตํากว่า JASIF ราว 30-40% (ตามประมาณการของเราคาด ILINK และ SYMC มีค่าบริการเฉลีย 500-600 บาทต่อคอร์กิโลเมตรต่อเดือน)

 นโยบายจ่ายเงินปันผลและผลตอบแทนเงินปันผล กองทุนฯ DIF และ JASIF มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 90% ของกําไรสุทธิและจ่ายเงินปันผลรายไตรมาสเหมือนกัน หากเปรียบเทียบผลตอบแทนเงินปันผลต่อไตรมาสเฉลียราว 0.20-0.24 บาทต่อหุ้น คิดเป็ นผลตอบแทนเงินปันผลต่อไตรมาสเฉลีย 2% ใกล้เคียงกัน

• ความเสี ยงของกองทุนฯ DIF ตํ ากว่า JASIF เรามองว่ากองทุนฯ DIF มีความเสียงตํากว่า JASIF เนืองจากมีการกระจายตัวของทรัพย์สินทีลงทุน และมีผู้เช่าหลัก 2 ราย (กลุ่ม TRUE, CAT) ขณะทีกองทุนฯ JASIF มีทรัพย์สินหลักเพียงโครงข่าย บรอดแบนด์ และมีผู้เช่าหลักรายเดียวคือ TTT BB อย่างไรก็ตามเรามองว่าทั [ง 2 กองทุนฯ มีความเสียงจากการลดสัดส่วนถือของผู้ถือหุ้นใหญ่ (TRUE และ JAS) โดย TRUE มีแนวโน้มลดสัดส่วนการถือหน่วยลงทุนเหลือไม่ตํากว่า 18% จากปัจจุบัน 28.1% ส่วน JAS มีแนวโน้มลดสัดส่วนลงเหลือไม่น้อยกว่า 19% จาก 33.3% ในปี ที 4-6

• กองทุนฯ DIF (U.R. TP14.18 บาท) น่าสนใจกว่า JASIF(U.R. TP 11.44 บาท) ปัจจุบันหน่วยลงทุนของกองทุนฯ DIF ในตลาดฯ ซื [อขาย PBV ราว 1 เท่า ขณะทีกองทุนฯ JASIF ซื [อขาย PBV ราว 0.84 เท่า เรามองว่าการทีกองทุน JASIF ซื [อขาย PBV ตํากว่า 1 เท่าสะท้อนความกังวลของตลาดต่อผลการดําเนินงานและความสามารถในการจ่ายเงินปันผลในอนาคตของ JASIF ซึงมีผู้เช่าหลักรายเดียว หากเปรียบเทียบความน่าสนใจของทั [ง 2 กองทุนฯ เรามองว่ากองทุนฯ DIF น่าสนใจกว่า JASIF เนืองจากมีการลงทุนในทรัพย์สินครอบคลุมทั [งเสาโทรคมนาคมและโครงข่าย FOC ทําให้มีโอกาสเติบโตจากการขยายฐานผู้เช่ารายใหม่ทั [งในตลาด Mobile Operator และ Internet Provider ขณะทีกองทุนฯ JASIF มีตลาดผู้เช่าจํากัดเฉพาะกลุ่ม Internet Provider รวมทั [งมีคู่แข่งโดยตรงจากผู้ให้บริการวงจรเช่า (ILINK, SYMC)



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความยอดนิยม (ล่าสุด)

บทความยอดนิยม (All Time)