12 มกราคม 2563

Passive Income สำคัญไฉน

Passive Income คืออะไร

Passive Income คือ การมีรายได้โดยที่ไม่ต้องลงมือ ลงแรง ทำงาน เปรียบเสมือนว่าเรามีฟาร์มห่านทองคำหลายๆ ตัว ซึ่งในแต่ละเดือน ห่านแต่ละตัวก็จะออกไข่ทองคำมาให้เรานำไปขายเพื่อแลกเป็นเงินมาจับจ่ายใช้สอย

บางช่วงเวลา อาจจะมีห่านบางตัวป่วยซึ่งไม่สามารถออกไข่มาให้เราได้ แต่ฟาร์มของเรายังมีห่านสุขภาพดีตัวอื่นๆ อยู่ ทำให้เรายังได้รับไข่ทองคำ เรื่อยๆ สม่ำเสมอ

ในชีวิตจริงนั้น Passive Income อาจจะเป็นไปได้หลากหลายรูปแบบ เช่น

  • เงินปันผลจากหุ้น กองทุนรวม
  • เงินปันผลจากกองทุน REIT
  • ดอกเบี้ยเงินฝาก
  • ดอกเบี้ยหุ้นกู้
  • ค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์


ทำไม Passive Income ถึงสำคัญ

คนที่ทำงานบริษัทเอกชน หรือรับจ้างทั่วไป ไม่ได้มีสวัสดิการรักษาพยาบาล บำเหน็จบำนาญแบบข้าราชการ

ถ้าหากอายุมากๆ  เกษียณอายุ โดนเลิกจ้าง หรือเกิด Accident ทำให้ไม่สามารถทำงานได้ จะทำให้ไม่มีรายได้ การมี Passive Income จะช่วยให้ชีวิตไม่ลำบากจนเกินไป

เราสามารถใช้รายได้จาก Passive Income เพื่อดำรงชีวิต ท่องเที่ยว หรือไปหาหมอได้



มี Passive Income เดือนละกี่บาทดีและสร้าง Passive Income ต้องใช้เงินเท่าไหร่

ขึ้นอยู่กับว่า ถ้าเราไม่ได้ทำงานประจำ เราต้องการรายได้จาก Passive Income เดือนละกี่บาท สมมติคาดการณ์ผลตอบแทนจากการลงทุนที่ 4%

วิธีคำนวณคือ = รายได้ Passive Income ต่อเดือนที่ต้องการ x 12 x (100 / 4) เช่น

  • ถ้าต้องการรายได้ Passive Income เดือนละ 9,000 บาท ต้องมีเงิน 2,700,000 บาท
  • ถ้าต้องการรายได้ Passive Income เดือนละ 15,000 บาท ต้องมีเงิน 4,500,000 บาท
  • ถ้าต้องการรายได้ Passive Income เดือนละ 30,000 บาท ต้องมีเงิน 9,000,000 บาท
  • ถ้าต้องการรายได้ Passive Income เดือนละ 50,000 บาท ต้องมีเงิน 15,000,000 บาท



ทำยังได้ถึงได้ผลตอบแทนจากการลงทุน 4%

บางคนอาจจะสงสัยว่า ผลตอบแทน 4% มันเป็นไปได้จริงเหรอ เพราะฝากเงินที่ธนาคารยังได้ไม่ถึง ​1% เอง

ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องนำเงินทั้งหมดไปฝากธนาคารเพียงอย่างเดียวเพราะผลตอบแทนต่ำมาก เราสามารถกระจายการลงทุนหลายๆ สินทรัพย์ได้ และผลตอบแทน ​4% นั้น เราสามารถหาได้จากหลากหลายช่องทาง เช่น

1. หุ้นกู้: หุ้นกู้นั้นจ่ายดอกเบี้ยที่ประมาณ 4-5% ต่อปี และความเสี่ยงค่อนข้างต้ำ แต่ข้อเสียของหุ้นกู้คือจองซื้อยาก และต้องใช้เงินลงทุนเริ่มต้น 1 แสนบาท

2. หุ้นปันผล: หุ้นปันผลหลายๆ ตัวในตลาดหลักทรัพย์นั้น ให้ผลเงินปันผลต่อปีมากกว่า 4% และใช้เงินลงทุนไม่เยอะ (หลักร้อยหรือหลักพันบาท) ทำให้เราค่อยๆ ทะยอยลงทุน ค่อยๆ สะสมหุ้นทีละเล็กทีละน้อยได้

3. กองทุน REIT: การลงทุนในการทุน REIT นั้น เป็นหนึ่งในวิธีสร้าง Passive Income ที่น่าสนใจ เนื่องจาก

  • กองทุน REIT จ่ายปันผลสม่ำเสมอ หลายๆ กองทุน REIT จ่ายปันผลทุกไตรมาส
  • กองทุน REIT จ่ายปันผลสูง 3-6%
  • กองทุน REIT มีรายได้จากค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ เช่น โรงแรม ห้างสรรพสินค้า โรงงาน คลังสินค้า หรือออฟฟิศ ซึ่งสามารถเพิ่มค่าเช่าตามเงินเฟ้อได้ ทำให้เพิ่มอัตราการจ่ายปันผลตามเงินเฟ้อได้เรื่อยๆ
  • กองทุน REIT นั้น ก็คือหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเภทนึง ซึ่งใช้เงินลงทุนไม่เยอะ (หลักร้อยหรือหลักพันบาท) ทำให้เราค่อยๆ ทะยอยลงทุน ค่อยๆ สะสมหุ้นทีละเล็กทีละน้อยได้




ข้อควรระวัง

  • ควรกระจายความเสี่ยง โดยลงทุนในหุ้น กองทุน REIT หลายๆ ตัว (ควรมากกว่า 6 ตัว เช่น 6-12 ตัว กำลังดี) เนื่องจากบางสถานการณ์ กองทุน REIT บางกอง หรือหุ้นบางตัวอาจจะขาดทุน และไม่สามารถจ่ายปันผลได้ หรือ เราอาจจะวิเคราะห์ผิด ทำให้ผลตอบแทนไม่ตรงตามที่คาดไว้
  • ควรมีเวลาติดตามข่าวสารของหุ้นและกองทุน REIT สม่ำเสมอ อย่างน้อยก็ทุกไตรมาสหลังงบการเงินออก



บทความยอดนิยม (ล่าสุด)

บทความยอดนิยม (All Time)