การลงทุนใน กองทุนดัชนี MSCI ACWI (MSCI All Country World Index) เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนไปทั่วโลก เนื่องจากดัชนีนี้ประกอบด้วยหุ้นขนาดใหญ่และขนาดกลางจากประเทศที่พัฒนาแล้ว (Developed Markets) และประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) ทั่วโลก
ความน่าสนใจของการลงทุนใน MSCI ACWI
- ผลตอบแทนที่แข็งแกร่ง: ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งดัชนี มีความโดดเด่น โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 8% ต่อปี ในระยะยาว (อ้างอิงข้อมูล ณ เดือนกันยายน 2025) ซึ่งแสดงถึงศักยภาพการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
- ต้นทุนต่ำ: โดยปกติ กองทุนที่อ้างอิงดัชนี (Index Fund) เป็นการลงทุนแบบ Passive ที่มีเป้าหมายในการสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนี ทำให้มีต้นทุนการบริหารจัดการที่ต่ำกว่ากองทุนประเภท Active โดยทั่วไป
- การกระจายความเสี่ยง: ดัชนีนี้กระจายการลงทุนไปใน หุ้นทั่วโลก ทั้งในอเมริกา ยุโรป เอเชีย และครอบคลุม หลากหลายอุตสาหกรรม เช่น เทคโนโลยี การเงิน สุขภาพ สินค้าอุปโภคบริโภค เป็นการลดความเสี่ยงเฉพาะตัวของประเทศหรือบริษัทใดบริษัทหนึ่งได้อย่างดี
นักลงทุนในไทยสามารถเข้าถึงการลงทุนในดัชนี MSCI ACWI ได้อย่างสะดวกง่ายดายผ่าน กองทุนรวมดัชนี (Index Fund) ที่จัดตั้งโดย บลจ. ในประเทศ โดยมีข้อดีและข้อเสียเมื่อเทียบกับการไปลงทุนต่างประเทศเอง สรุปได้ดังนี้:
1. ความสะดวก
- ลงทุนผ่านกองทุนรวมไทย: ลงทุนง่ายผ่าน Mobile Application/เว็บไซต์ของ บลจ. หรือธนาคาร
- ลงทุนในกองทุนต่างประเทศโดยตรง: ต้องเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ต่างประเทศและจัดการเรื่องโอนเงินด้วยตนเอง
- ลงทุนผ่านกองทุนรวมไทย: มีเอกสารอัปเดตข้อมูลกองทุนรวม (Fund Fact Sheet) เป็นภาษาไทยและเป็นมาตรฐาน
- ลงทุนในกองทุนต่างประเทศโดยตรง: ต้องศึกษาข้อมูลจากแหล่งต่างประเทศทั้งหมด
- ลงทุนผ่านกองทุนรวมไทย: มีการป้องกันความเสี่ยงจากค่าเงิน (Hedging) ให้ โดยส่วนใหญ่จะมีนโยบายป้องกัน 100% หรือบางส่วนขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
- ลงทุนในกองทุนต่างประเทศโดยตรง: ต้องบริหารจัดการความเสี่ยงจากค่าเงินด้วยตนเอง (หรือยอมรับความเสี่ยงค่าเงินเต็มจำนวน)
- ลงทุนผ่านกองทุนรวมไทย: กำไรจากการขาย (Capital Gain) ไม่ต้องเสียภาษี
- ลงทุนในกองทุนต่างประเทศโดยตรง: เสียภาษี Capital Gain
5. ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
- ลงทุนผ่านกองทุนรวมไทย: มีค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) ที่เรียกเก็บโดย บลจ. เพิ่มเติมประมาณ 0.5% - 1.0% ต่อปี
- ลงทุนในกองทุนต่างประเทศโดยตรง: ไม่มีค่าธรรมเนียมการจัดการแบบการลงทุนผ่านกองทุนรวมไทย
กองทุนรวมดัชนี Index Fund ไทย ที่ลงทุนใน MSCI ACWI
1. กองทุน K-WORLDX
- บลจ กสิกรไทย
- ประเภท กองทุนรวมทั่วไป
- ป้องกันความเสี่ยงค่าเงินตามดุลพินิจผู้จัดการกองทุน
- ค่าธรรมเนียม: 0.6324% ต่อปี
2. กองทุน K-WORLDXRMF
- บลจ กสิกรไทย
- ประเภท กองทุนรวม RMF (ลดหย่อนภาษีได้)
- ป้องกันความเสี่ยงค่าเงินตามดุลพินิจผู้จัดการกองทุน
- ค่าธรรมเนียม: 0.5960% ต่อปี
3. กองทุน KKP PGE-UH
- บลจ เกียรตินาคินภัทร
- ประเภท กองทุนรวมทั่วไป
- ไม่ป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน
- ค่าธรรมเนียม: 0.6770% ต่อปี
4. กองทุน KKP PGE-H
- บลจ เกียรตินาคินภัทร
- ประเภท กองทุนรวมทั่วไป
- ป้องกันความเสี่ยงค่าเงินตามดุลพินิจผู้จัดการกองทุน
- ค่าธรรมเนียม: 0.6810% ต่อปี
5. กองทุน KKP PGE RMF-UH
- บลจ เกียรตินาคินภัทร
- ประเภท กองทุนรวม RMF (ลดหย่อนภาษีได้)
- ไม่ป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน
- ค่าธรรมเนียม: 0.6741% ต่อปี
6. กองทุน KKP PGE RMF-H
- บลจ เกียรตินาคินภัทร
- ประเภท กองทุนรวม RMF (ลดหย่อนภาษีได้)
- ป้องกันความเสี่ยงค่าเงินตามดุลพินิจผู้จัดการกองทุน
- ค่าธรรมเนียม: 0.7120% ต่อปี
7. กองทุน LHGEQP
- บลจ แลนด์แอนด์เฮาส์
- ประเภท กองทุนรวมทั่วไป
- ป้องกันความเสี่ยงค่าเงินตามดุลพินิจผู้จัดการกองทุน
- ค่าธรรมเนียม: 2.1493% ต่อปี
8. กองทุน LHGEQRMF
- บลจ แลนด์แอนด์เฮาส์
- ประเภท กองทุนรวม RMF (ลดหย่อนภาษีได้)
- ป้องกันความเสี่ยงค่าเงินตามดุลพินิจผู้จัดการกองทุน
- ค่าธรรมเนียม: 2.4653% ต่อปี
9. กองทุน KF-WORLD-INDX-A
- บลจ กรุงศรี
- ประเภท กองทุนรวมทั่วไป
- ป้องกันความเสี่ยงค่าเงินตามดุลพินิจผู้จัดการกองทุน
- ค่าธรรมเนียม: 1.0447% ต่อปี
10. กองทุน KF-WORLD-INDXRMF
- บลจ กรุงศรี
- ประเภท กองทุนรวม RMF (ลดหย่อนภาษีได้)
- ป้องกันความเสี่ยงค่าเงินตามดุลพินิจผู้จัดการกองทุน
- ค่าธรรมเนียม: 0.9951% ต่อปี
11. กองทุน KTGEQA
- บลจ กรุงไทย
- ประเภท กองทุนรวมทั่วไป
- ป้องกันความเสี่ยงค่าเงินตามดุลพินิจผู้จัดการกองทุน
- ค่าธรรมเนียม: 0.6729% ต่อปี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น